ป้ายโฆษณา 480x86

-

This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รายชื่อถนนและซอยเปลี่ยวใน 50 เขตของกรุงเทพ


จากการสำรวจของพี่ๆเทศกิจในโครงการกลับบ้านปลอดภัยไปกับเทศกิจ เพื่อดูแลประชาชนที่ต้องเดินทางเข้าออกบ้านที่อยู่ในซอยเปลี่ยวในเวลากลางคืน โดยเฉพาะซอยลึก1-2 ก.ม. ที่ไม่มีรถโดยสารใดๆผ่าน 50 เขตของกรุงเทพมาหานคร ได้คัดเลือกซอยเปลี่ยวเพื่อจัดรถของเจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นรถกระบะมีหลังคาให้บริการรับส่งประชาชนเข้าซอยฟรี ตั้งแต่เวลา 21.00 – 24.00 น.สำหรับชาวรถคันแรกก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังด้วยนะครับ

สำหรับรายชื่อถนนและซอยเปลี่ยวใน 50 เขต มีดังนี้

เขตปทุมวัน – บริเวณถนนวิทยุ ซ.ปลูกจิต ซ.โปโล
เขตวัฒนา – บริเวณซ.ปรีดีพนมยงค์ 5,14,46
เขตสาทร – บริเวณถนนสาทรใต้ ซอยสาทร 11
เขตบางรัก – บริเวณ ซ.สองพระ
เขตคลองเตย – บริเวณถนนพระราม 4 ซ.แสนสุข
เขตบางนา – บริเวณซ.บางนา-บางนาตราด 56
เขตบางคอแหลม – บริเวณถนนเจริญราษฎร์ ซ.เจริญราษฎร์
เขตพระโขนง – บริเวณ ซ.สุขุมวิท 85
เขตยานนาวา – บริเวณถนนนนทบุรี ซ.นาคสุวรรณ
เขตสวนหลวง – บริเวณ ซ.อ่อนนุช 39-ซ.ศรีนครินทร์ 24
เขตสัมพันธ์วงศ์ – บริเวณถนนเยาวราช
เขตดุสิต – บริเวณสถานีรถไฟสามเสน
เขตพญาไท – บริเวณถนนพระราม6
เขตพระนคร – บริเวณถนนกรุงเกษม-ท่าเรือเทเวศร์
เขตห้วยขวาง – บริเวณถนนพระราม9ซ.15,17,19
เขตดินแดง – บริเวณซ.รัชดาภิเษก
เขตราชเทวี – บริเวณถนนกำแพงเพชร7
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย – บริเวณถนนกรุงเกษม
เขตวังทองหลาง – บริเวณซ.ลาดพร้าว 124
เขตคันนายาว – บริเวณซ.รามอินทรา 62
เขตคลองสามวา – บริเวณถนนนิมิตรใหม่ ซ.หทัยราษฎร์ 37
เขตบึงกุ่ม – บริเวณซ.นวมินทร์ 135
เขตบางกะปิ – บริเวณถนนหัวหมาก ซ.รามคำแหง 26
เขตประเวศ บริเวณ – ซ.อ่อนนุช 65
เขตมีนบุรี – บริเวณถนนสามวา ซ.รามอินทรา 117
เขตลาดกระบัง – บริเวณ ซ.ร่มเกล้า27/1 ตลาดหัวตะเข้
เขตสะพานสูง – บริเวณซ.รามคำแหง 118
เขตหนองจอก – บริเวณถนนประชาสำราญ ถนนคลอง 14
เขตบางซื่อ – บริเวณซ.กรุงเทพ-นนทบุรี
เขตจตุจักร – บริเวณ ซ.เสือใหญ่อุทิศ
เขตดอนเมือง – บริเวณถนนประชาอุทิศ ซ.วัดสายอัมพันธ์
เขตบางเขน – บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ซ.5
อพาร์ทเม้นท์เขตลาดพร้าว – บริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ
เขตสายไหม – บริเวณถนนเพิ่มสิน-วัชรพล
เขตหลักสี่ – บริเวณซ.มีสุข
เขตหนองแขม – บริเวณซงเพชรเกษม 77
เขตภาษีเจริญ – บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซ.เพชรเกษม 54
เขตบางแค – บริเวณ ซ.คลองหนองใหญ่
เขตบางบอน – บริเวณ ซ.เอกชัย 132
เขตบางขุนเทียน – บริเวณถนนบางขุนเทียนชายทะเล
เขตทุ่งครุ – บริเวณถนนถนนเลียบคลองใฝั่งตะวันตก
เขตราษฎร์บูรณะ – บริเวณ ซ.สุขสวัสดิ์ 30
เขตบางกอกน้อย – บริเวณถนนเลียบทางรถไฟ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 34
เขตบางพลัด – บริเวณ ซ.จรัญฯ 44
เขตตลิ่งชัน – บริเวณถนนแก้วทอง ถนนปากน้ำกระโจมทอง ถนนราชพฤกษ์ และถนนฉิมพลี
เขตทวีวัฒนา – บริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา
เขตบางกอกใหญ่ – บริเวณ ซ.พาณิชยการธนบุรี 9
เขตธนบุรี – บริเวณ ซ.เทอดไท 22,26
เขตคลองสาน – บริเวณ ซ.เจริญนคร40 , ซ.กรุงธนบุรี 4
และเขตจอมทอง – บริเวณถนนพระราม 2 ถนนเอกชัย
รับสร้างอพาร์ทเม้นท์

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ต้องรู้เมื่อใช้สิทธิ์รถคันเเรก

ตั้งแต่เริ่มนโยบายรถคันเเรกออกมาจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมาจะครบปีแล้ว มาเราต้องยอมรับว่ากระแส รถคันแรกนั้น ได้รับการตอบรับดีจากประชาชน จนทุกคนอยากมีรถคันแรกไม่ว่าจะลูกเด็กเล็กแดงต่างก็เดินหน้าที่อยากจะใช้สิทธิรถคันแรก แต่ที่เราลืมมองคือว่า เมื่อใช้สิทธิรถคันแรกแล้วจะเป็นเช่นอย่างไร
การเข้าใช้สิทธิว่ายากแล้ว แต่การถือสิทธิรถคันแรกกลับยากกว่า โดยเฉพาะเมื่อมีกฎระเบียบมากมาย ที่ล่าสุดกฏใหม่ของ "รถคันแรก" ก็เพิ่งจะออกจากกระทรวงการคลังและบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีการกำหนดเกี่ยวกับกรณี ต้องคืนเงินให้กับสรรพสามิต หากผิดเงื่อนไขรถคันแรก และเราจะพาไปดูว่ามีอะไรบ้างจากประกาศฉบับนี้
กรณีที่ต้องคืนเงินให้ สรรพสามิต

                  - ผู้ซื้อนำเงินคืนโดยสมัครใจ ในกรณีแรกที่ออกมาในประกาศฉบับนี้  หากต้องการเปลี่ยนมือรถคันแรกที่ซื้อมาตามเงื่อนไขรถคันแรกก่อน  5  ปีนั้น ผู้ซื้อต้องนำเงินที่ได้รับคืนแก่รัฐเสียก่อนจึงจะเปลี่ยนมือได้
                  -  บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อก่อนกำหนด ในกรณีนี้เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้วรถคันดังกล่าวจะถูกนำออกประมูลหรือทำตามการกระทำใดๆ ซึ่งเมื่อหักหนีและค่าใช้จ่ายแล้ว ส่วนที่เหลือต้องคืนกลับสำนักงาน สรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิ
                  - ผู้เช่าซื้อปฏิบัติผิดสัญญาเช่าซื้ออันเป็นเหตุให้รถคันเเรกถูกยึด ในกรณีนี้คือเมื่อรถถูกยึด ซึ่งเมื่อรถถูกยึดมันก็จะถูกนำขายทอดตลาด และส่วนที่เหลือนั้น คุณก็ยังต้องคืนให้สรรพสามิตอีกด้วย
                  - กรณีรถคันแรกที่ซื้อหรือเช่าซื้อเกิดอุบัติเหตุหรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์จะใช้รถยนต์นั้นต่อไป ไม่ว่าด้วยเหตุใดคุณต้องคืนเงินที่ได้ตามสิทธิรถคันแรก
                 - กรณีรถคันแรกที่ซื้อหรือเช่าซื้อสูญหาย ในกรณีนี้จากประกาศได้ระบุชัดเจนว่า เมื่อรถหายและผู้เอาประกันได้รับการชดเชยค่าสินไหมแล้ว ต้องส่งเงินคืนแก่สรรพสามิต แต่หากภายหลังได้รถคืนมาผู้ซื้อจำเป็นต้องโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทประกัน
อย่างไรก็ดีแม้จะมีการกำหนดชัดเจน แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นบางข้อในการโอนกรรมสิทธิ์ได้ โดยที่ไม่ต้องคืนเงินแก่รัฐ โดยมีข้อต่างๆ ดังต่อนี้
                   - กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม
                   - กรณีผู้ให้เช่าซื้อ(ไฟแนนซ์)โอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อ
                   - กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อซึ่งได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ต่อมาได้ทำสัญญาเช่าซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าซื้อ โดยผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากการขอสินเชื่อเช่าซื้อนั้น


เตือนภัยล้างรถในคาร์แคร์

เตือนภัยล้างรถในคาร์แคร์
ข่าวดังอีกในขณะนี้ ได้มีการแชร์รูปภาพกรณีที่ คนนำรถไปล้างยังคาร์แคร์แห่งหนึ่ง แต่ต้องฟาดเคาระห์ที่ไปล้างรถชนพังยับ  โดยเจ้าของรถได้นำมาแชร์ลงในเว็บพันธุ์ทิพย์ ชื่อกระทู้ ฟาดเคราะห์ กับร้านล้างรถ หน้าซอยรามอินทรา 14 (ซอยมัลลาภ)



ผู้เสียหาย(เจ้าของรถ) ได้ให้ลูกจ้างในร้านคาร์แคร์ขับรถไปจอดเพื่อรอทำความสะอาด ขณะนั้น ตนได้ไปรอยังห้องรับรองลูกค้า จากนั้น 5 นาที ก็เกิดเสียงดังมาก แต่เจ้าของรถก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งลูกจ้างในร้านได้มาเรียกให้ไปดู ปรากฏพบว่า รถยนต์ของตนชนอัดเข้ากับเสาอย่างแรง จนส่วนหน้าด้านหน้าของรถยนต์พังเสียหาย
จากนั้นผู้เสียหายพยายามถามว่าใครเป็นคนขับ เพราะต้องการคนรับผิดชอบ แต่กลับไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ซ้ำลูกจ้างยังเป็นต่างด้าว รถคันดังกล่าวก็ทำประกันเพียงชั้น 2 ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายต้องซ่อมแซมเอง ลูกจ้างในร้านระบุว่า รถขัดข้อง น้ำมันเบรครั่ว ยางปูรถขัดกับคันเร่ง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ
แต่ต่อมาเจ้าของร้านคาร์แคร์กลับมาบอกว่าให้ไปเรียกร้องกับคนที่ขับรถเอง เพราะกรณีนี้เจ้าของร้านไม่เกี่ยว ซึ่งทางร้านไม่มีประกันเบ็ดเตล็ด ทำให้เจ้าของรถงวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน เจ้าของร้านคาร์แคร์ได้โทรศัพท์มาเพื่อจะขอเคลียร์ ด้วยการให้อู่ซ่อมรถที่รู้จักมาทำการซ่อมแซม และขอร้องไม่ให้ตนไปแจ้งความ แต่ผู้เสียหายไม่มั่นใจ เลยไปแจ้งความเอาไว้ก่อน อีกทั้งผู้เสียหายยังได้ไปสอบถามวินจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณใกล้เคียงกับร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ได้ระบุว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนจึงทำให้ตนรู้เครียดหนักกว่าเดิม เพราะไม่รู้ว่าจะได้รถกลับมาสภาพเดิมหรือไม่

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รีไฟแนนซ์รถคันแรก

 ถ้ารีไฟแนนซ์รถคันแรก
       ในปีที่แล้ว2555 นโยบายรถคันแรกทำให้มีคนสนใจออกรถกันเป็นจำนวนมหาศาลกันเลยทีเดียวมีทั้งผู้ที่ประวัติเครดิตปกติและคนที่ติดเครดิตหรือที่ชอบเรียกกันว่าติดแบล็คลิสต์สนใจโครงการรถคันแรกเป็นจำนวนมาก ก็มีทั้งผู้ที่ขอสินเชื่อรถอนุมัติผ่านและผู้ที่ไม่สมหวังเพราะติดเครดิตอยู่ทำให้ไม่สามารถได้รับสิทธิรถคันแรกได้จึงทำให้ผิดหวัง และก็ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งทีี่มีกำลังซื้อหรือมีคนออกเงินสดให้ไปซื้อรถในโครงการรถคันแรกด้วยเงินสด
       หลังจากเข้าโครงการรถคันแรกเรียบร้อยแล้ว ได้รับสิทธิคืนภาษีมาแล้วเกิดมีความต้องการจะ
รีไฟแนนซ์รถคันเเรกเกิดคำถามว่าจะสามารถรีไฟแนนซ์รถคันเเรกได้หรือเปล่า ทั้งที่ซื้อด้วยเงินสดและขอสินเชื่อรถยนต์จึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจ โดยการรีไฟแนนซ์รถไม่ได้ผิดเงื่อนใข โดยการรีไฟแนนซ์ ยังเป็นชื่อของตัวเองไม่เสียสิทธิ์

      รถคันแรกที่ผ่อนอยู่สามารถโอนสิทธิ์เปลี่ยนลีสซิ่งรถได้หรือผู้ที่ซื้อรถคันแรกด้วยเงินสดก็สามารถนำรถเข้าไฟแนนซ์เพื่อขอรีไฟแนนซ์รถกับลิสซิ่งรถได้แต่ต้องใช้ชื่อเดิมในการขอสินเชื่อรถยนต์เป็นชื่อเดียวกับผู้ที่ยื่่นขอสิทธิ์รถคันแรกและยังครอบครองรถอยู่ในระยะเวลา5ปี ก็ถือได้ว่ายังรักษาสิทธิ์รถคันแรกไว้ได้อยู่แต่ถ้าภายในระยะเวลา5ปี ทำการเปลี่ยนชื่อจากผู้รับสิทธิ์รถคันแรกเป็นบุคคลอื่นเมื่อใด เท่ากับผิดเงื่อนไข

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แอพฯ สอบใบขับขี่ สำหรับคนเตรียมตัวขับรถ

แอพฯ สอบใบขับขี่ สำหรับคนเตรียมตัวขับรถ
สอบใบขับขี่ เป็นแอพพลิเคชั่นแนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลและรถมอเตอร์ไซค์ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังจะเตรียมตัวไปสอบทำใบขับขี่โดยเฉพาะ ซึ่งภายในตัวแอพฯ จะช่วยสอนกฎจราจรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณไฟจราจร, ความหมายของป้ายจราจรต่าง ๆ, เทคนิคการขับรถและเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่ต้องใช้ในการสมัครสอบ รวมไปถึงข้อมูลการฝึกภาคปฏิบัติทั้งหมด เป็นต้น เรียกได้ว่า แอพฯ สอบใบขับขี่ นี้ จะเป็นติวเตอร์ช่วยสอนให้คุณได้ใบขับขี่มาอย่างไม่ยากเย็น เสมือนคุณมีอาจารย์สอนขับรถมาคุมสอบแบบใกล้ชิดเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว สอบใบขับขี่ ยังมีคลิปวิดีโอท่าการสอบขับรถยนต์ครบทุกด่านพร้อมแนะนำทริคต่าง ๆ มาให้ดูอีกด้วย
สอบใบขับขี่ แอพพลิเคชั่นแนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลและรถมอเตอร์ไซค์นี้ จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียสตางค์ไปเข้าคอร์สอบรมเรียนขับรถให้ยุ่งยากอีกต่อไป ซึ่งผู้พัฒนาโปรแกรมอย่าง CodeDoon ยืนยันอีกว่าแอพฯ นี้จะช่วยให้คุณสามารถสอบใบขับขี่ผ่านได้มากถึง  95 % อย่างแน่นอน สอบใบขับขี่ สามารถดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ android.kapook.com และ Google Play (เฉพาะผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ Android เท่านั้น)


รายละเอียดของแอพพลิเคชั่น

ชื่อ : สอบใบขับขี่
ราคา : ฟรี
หมวด : เครื่องมือต่าง ๆ
โปรแกรมอัพเดทล่าสุด : วันที่ 17 กรกฎาคม 2013
เวอร์ชั่นล่าสุด : 1.3
ขนาดโปรแกรม : 14MB
ภาษาที่รองรับ : English
ผู้ผลิตโปรแกรม : CodeDoon
เครื่องที่รองรับโปรแกรม : Android
เฟิร์มแวร์ที่รองรับ : Android 2.2 ขึ้นไป

เข้าเกียร์ผิดขับรถพุ่งชนโลตัส

หนุ่มเข้าเกียร์ผิดพุ่งชนโลตัสเอ็กเพรสอินทามระเสียหายแม่ค้าของชำถูกกระจกบาดเลือดอาบ หนุ่มเข้าเกียร์ผิด ขับรถพุ่งชนโลตัส ตำรวจสน.สุทธิสารเข้าตรวจสอบเหตุรถเก๋งมิตซูบิชิมิราจสีชมพูทะเบียนป้ายแดงบ-8027กทม. พุ่งชนร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กเพรสสาขาอินทามระซ.อินทามระ35 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวง-เขตดินแดง กทม. ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบคนขับเป็นชายอายุประมาณ 28-30 ปี ยืนอยู่ข้างรถเก๋งคันเกิดเหตุอยู่ในอาการที่ตกใจภายในร้านโลตัสพบกระจกหน้าร้านแตกทั้งบานสินค้าที่ชั้นวางของได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือนางพรณารี จำเนียร อายุ 36 ปี อาชีพแม่ค้าขายของชำถูกรถชนและกระจกบาดตามร่างกายมีเลือดไหลเต็มตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง ร.พ.เปาโลเมโมเรียลสะพานควายไปแล้วก่อนหน้านี้ สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนขับรถเก๋ง มิตซูบิชิ ได้มาซื้อของกับแฟนสาวโดยจอดรถไว้ในลักษณะหันหน้าเข้าร้าน เมื่อซื้อของแล้วเสร็จสตาร์ทรถขณะกำลังจะออกตัวกลับใส่เกียร์ผิด ทำให้รถพุ่งเข้าไปใน โลตัส ทำให้กระจกหน้าร้านแตกและนางพรณารี ที่กำลังยืนเลือกสินค้าถูกกระจกบาดได้รับบาดเจ็บอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เชิญคนขับรถเก๋งไปสอบปากคำที่สน.สุทธิสารจากนั้นคนก่อเหตุได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายที่ร.พ.เปาโลแล้ว

จ่ายคืนเงินรถคันแรกครบทุกรายแน่นอน

เหตุยังมีเงินคงคลังสำรองถึง 2 แสนล้านบาทอ้างใช้อำนาจ รมว.คลังสำรองจ่ายได้
 งวดถัดไปควักจ่ายอีก 5 พันล้าน นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการจ่ายเงินคืนในโครงการรถคันแรกโดยยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาในการจ่ายเงินคืนให้แก่ประชาชนอย่างแน่นอน

 แม้ว่าจะมีเงินเหลือเพียง 392 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ในงบประมาณปี 2556 ก็ตาม เพราะยังสามารถใช้เงินคงคลังสำรองจ่ายไปก่อนได้ตามนโยบายของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นองนายกฯและรมว.คลัง แล้วจึงมาตั้งงบชดเชยในปีถัดไป ส่วนปี 2557-2558 ซึ่งจะมีรถที่เข้าโครงการถือครองครบ 1 ปีมากขึ้นก็จะตั้งงบให้ตรงกับตัวเลขที่ต้องคืนจริงมากที่สุด "เดิมเคยมีแนวคิดจะใช้เงินจากงบกลางในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งปกติตั้งไว้ประมาณปีละ 5 หมื่นล้านบาท ที่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่นายกิตติรัตน์ในฐานะที่กำกับดูแลกรมบัญชีกลางได้พิจารณาเห็นว่าขณะนี้ยังมีเงินคงคลังเหลืออยู่มากที่สามารถดึงมาใช้ก่อนได้" นายทนุศักดิ์กล่าวและว่ากรณีที่มีกระแสข่าวการทิ้งใบจองจำนวนมากนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่ากระทบต่อผู้ผลิตหรือไม่ รวมถึงการยกเลิกเข้าโครงการยังอยู่ที่ 2 พันกว่ารายเท่าเดิม โดยปกติก็จะมีการยึดรถอยู่แล้ว 1% แม้จะไม่มีโครงการรถคันแรก นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าวว่า การนำเงินคงคลังมาใช้เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้วกรณีตั้งงบไว้ไม่พอจ่าย ซึ่งการคืนเงินรถคันแรกเองก็ตั้งงบไว้แล้วในปี 2556 แต่เนื่องจากได้รับความนิยมและมีผู้เข้าโครงการมากกว่าที่คาดไว้ทำให้ต้องอาศัยอำนาจรัฐมนตรีอนุญาตให้ใช้เงินคงคลัง ซึ่งปัจจุบันประมาณ 2 แสนล้านบาทไปก่อนได้ เพราะมีรายจ่ายประจำที่ต้องสำรองไว้เพื่อจ่ายเงินเดือนข้าราชการเพียงเดือนละ 5 หมื่นล้านเท่านั้น โดยยอดที่จะคืนในงวดวันที่ 5 เมษายน มีประมาณ 5 หมื่นราย คิดเป็นเงิน 4-5 พันล้านบาทนั้นไม่มีปัญหารวมถึงงวดอื่นๆ ด้วย

รถคันแรกดันยอดใช้น้ำมัน-ก๊าซพุ่ง


กรมธุรกิจพลังงาน เผย ยอดใช้น้ำมันและก๊าซครึ่งแรกของปี 2556 โตกระจายทุกประเภท เหตุรถออกใหม่รุมใช้เชื้อเพลิง ทุบสถิติยอดใช้สูงสุดในรอบ ปี  ชี้ราคาน้ำมันโลกพุ่ง รถหรูแห่ปรับเป็นเครื่องยนต์ดีเซล รับอานิสงส์รัฐตรึงราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าการใช้น้ำมันและก๊าซธรรม ชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) และก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ของไทยในช่วง เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2556 ว่า ขยายตัวขึ้นสูงสุดในรอบ ปี นับตั้งแต่ปี 2553 ทั้งนี้ เนื่องจากมีรถใหม่ออกสู่ตลาดตามนโยบายรถคันแรกจำนวนมาก โดยกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 9% เฉลี่ยอยู่ที่ 22.5  ล้านลิตรต่อวัน
Description: http://admax.effectivemeasure.net/emnb_1_370232.gif
สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน 77% อยู่ที่ 20.2 ล้านลิตรต่อวัน ส่งผลให้การใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น 94% อยู่ที่ 2.5 ล้านลิตรต่อวัน สำหรับกลุ่มดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 59.6 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่แอลพีจีเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ หมื่นตันต่อเดือน และเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ 8.4 ล้านกิโลกรัมต่อวัน
ทั้งนี้ ยอดการใช้เชื้อเพลิงที่มีการใช้สูงสุดในรอบ ปี คือ น้ำมันเบนซิน 95 มียอดใช้สูงสุด 1.93 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือน พ.ค. 2556, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มียอดใช้สูงสุด ล้านลิตรต่อวัน ในเดือน ก.พ. 2556, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 มียอดใช้สูงสุด 9.3 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือน เม.ย.2556, แก๊สโซฮอล์อี-20 มียอดใช้สูงสุด 2.63 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเดือน เม.ย.2556, แก๊สโซฮอล์อี-85 มียอดใช้สูงสุด 0.36 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเดือน มิ.ย.2556, น้ำมันดีเซล มียอดใช้สูงสุด 5.98 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเดือน มี.ค.2556 และเอ็นจีวี มียอดใช้สูงสุด 8.7 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เมื่อเดือน พ.ค.2556 ส่วนปริมาณการใช้แอลพีจีครึ่งแรกของปี 2556 ยังต่ำกว่าปี 2555 ที่ผ่านมา

"ราคาน้ำมันโลกที่ผันผวนและปรับตัวสูงขึ้น และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้รถยนต์บางประเภท โดยเฉพาะรถยนต์หรูปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อต้องการใช้น้ำมันราคาถูก ประกอบกับนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ทำให้ยอดการใช้น้ำมันดีเซลขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 51% ของสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดของประเทศ จากเดิมในปี 2555 มีสัดส่วนอยู่เพียง 47% และคาดว่าการใช้ดีเซลจะยังคงทรงตัวระดับสูงต่อไป" นายวีระพล กล่าว.

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ โครงการ ‘รถยนต์คันแรก’

สาระน่ารู้เกี่ยวกับโครงการ ‘รถยนต์คันแรก’
บล็อกรถคันเเรกได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลมาประมวลให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันครับ โดยจะประมวลเป็นประเด็นๆ ไป เริ่มต้นที่ใครบ้าง? ที่มีสิทธิรับเงินภาษีคืนจากรัฐบาลในโครงการนี้ หวังว่าคงช่วยคลายข้อสงสัยให้แก่คุณผู้อ่านหลายๆ ท่านได้
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ 

• ต้องไม่เคยจดทะเบียนรถยนต์คันใดในชื่อตนเองมาก่อน 
• ต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

เงื่อนไขเกี่ยวกับรถที่ซื้อ 
• ต้องเป็นรถที่ซื้อหรือจองไว้ระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 เท่านั้น 
• รถที่ซื้อต้องเป็นรถใหม่เท่านั้น (การซื้อรถมือสอง จะไม่ได้สิทธิ์รับเงินภาษีคืน) 
• จะซื้อรถด้วยเงินสดหรือเช่าซื้อก็ได้ 
• รถที่ซื้อต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย (รถนำเข้าไม่ได้สิทธิ์นี้) 
• รถเก๋งที่ซื้อต้องมีขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ซีซี แต่หากเป็นรถกระบะ จะไม่จำกัดความจุกระบอกสูบ 
• รถที่ซื้อราคาต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท 
• ผู้ซื้อต้องครอบครองรถไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยในระหว่าง 5 ปีนี้ จะโอนให้หรือขายให้ใครไม่ได้ เว้นแต่กรณีเป็นไปตาม 

• รถกระบะ 2 ประตู ราคาประมาณคันละ 3-5 แสนบาท จะได้รับเงินภาษีคืนไม่เกิน 10,000 บาท 
• รถกระบะ 4 ประตู ราคาประมาณคันละ 7-8 แสนบาท จะได้รับเงินภาษีคืนไม่เกิน 60,000 บาท
สิ่งที่ผู้ซื้อรถต้องทำ 
• รีบซื้อ หรือ จองรถภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 ในชื่อของตนเอง (การซื้อใบจองต่อจากบุคคลอื่นจะไม่ได้เงินภาษีคืนนะครับ เช่น อยากได้รถเร็วๆ เลยไปซื้อใบจองจากคนอื่น ระวังเงื่อนไขข้อนี้ให้ดีด้วย) 
• นำหลักฐานเหล่านี้ไปยื่นขอใช้สิทธิ์ในโครงการ “รถคันแรก” ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา โดยเตรียมเอกสารเหล่านี้ไปด้วยนะครับ.... 
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 
3. สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ) 
4. สำเนาคู่มือการจดทะเบียน 
5. หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์ใหม่คันแรก
6. สำเนาหลักฐานการซื้อขายรถยนต์ (กรณีซื้อเงินสดใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินหรือสำเนาสัญญาซื้อขายและสำเนาเอกสารการรับมอบรถยนต์ กรณีเช่าซื้อใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินและสำเนาเอกสารการรับมอบรถยนต์) 
7. สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ 
8. ใบจอง เลขที่....................... ลงวันที่.......................
(ชื่อที่ระบุในใบจองรถยนต์จะต้องเป็นชื่อบุคคลเดียวกันกับผู้ซื้อรถยนต์ที่ยื่นขอใช้สิทธิ์ฯ)
จะได้เงินภาษีคืนเมื่อไร? 
ผู้ขอใช้สิทธิ จะได้รับเงินภาษีคืนหลังจากครอบครองรถยนต์ใหม่คันแรกไปแล้ว 1 ปี หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด โดยจะได้รับภาษีคืนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป
จะทำอย่างไรถ้าต้องซื้อรถใกล้ๆ สิ้นปีนี้ 
สำหรับบางท่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อรถรุ่นไหนตอนนี้ หรือยังเก็บเงินได้ไม่พอในตอนนี้ แต่จะพร้อมใกล้ๆ สิ้นปี ผมมีคำแนะนำดังนี้ 
• ไปซื้อหรือจองรถยนต์ไว้ แล้วยื่นคำขอใช้สิทธิให้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 (แนะนำว่าเผื่อเวลาไว้ซัก 2-3 วันทำการก่อนสิ้นปีจะดีกว่า) 
• ไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิตที่ https://firstcar.excise.go.th 
• ทำการลงทะเบียนและตั้งรหัสผ่าน (ดูคู่มือการยื่นขอใช้สิทธิ์ฯ ผ่านอินเทอร์เน็ตฉบับเต็มได้ที่ https://firstcar.excise.go.th/fc_internet/form/firstcar_manual.pdf) 
• Log-in เข้าไปด้วยเลขประจำตัวประชาชนและรหัสผ่านตามที่ได้ตั้งไว้ 
• กดปุ่ม “ยื่นแบบขอใช้สิทธิ์ฯ” แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงไป 
• แนะนำว่าให้ระบุบัญชีธนาคารลงไปด้วยเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับเงินภาษีคืน 
• สุดท้าย ต้องนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา (หลักฐานใดยังไม่ได้รับก็ยังไม่ต้องยื่น ให้ยื่นเท่าที่มีไปก่อนให้ทันภายใน 31 ธันวาคม 2555 ส่วนหลักฐานอื่นๆ ที่เหลือสามารถยื่นภายหลังได้เมื่อได้รับ)

รถคันแรกเคลมสูงประกันปรับขึ้นเบี้ยประกัน

รถคันแรก พ่นพิษทางอ้อม เคลมเยอะ ประกันภัยสุดอั้น เตรียมปรับเพิ่มเบี้ยประกัน


นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจประกันภัยในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการตื่นตัวของประชาชนที่ทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น โดยครึ่งแรกของปีเบี้ยประกันทั้งระบบเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 25 จากนโยบายรถยนต์คันแรกและครึ่งหลังของปีเบี้ยประกันน่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 - 20 จากปีก่อน ที่มีเบี้ยประกันทั้งตลาดอยู่ที่ 160,000 ล้านบาท โดยในส่วนของเมืองไทยประกันภัย คาดว่าจะมีการอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันรับตรงที่ 4,700 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ ร้อยละ 45 และประกันภัยทั่วไปร้อยละ 55

นางนวลพรรณกล่าวอีกว่า มีแผนจะปรับเพิ่มเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์คันแรก หรือ ซิตี้คาร์ เพราะที่ผ่านมามีอัตราการเคลมประกันสูงขึ้น ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปีบริษัทมีกำไรสุทธิ 452,140,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ขาดทุนสุทธิ 630,900,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 177.7 โดยเป็นผลมาจากยอดขายประกันภัยและรายได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น จากการขยายช่องทางการขายของงานประกันภัยทั่วไป ทั้งด้านรถยนต์และประกันภัยอื่น โดยมีเบี้ยประกันที่ถือเป็นรายได้มีจำนวน 2,611,500,000 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 27.24 ด้านการเรียกคืนสินไหมจากเหตุการณ์อุทกภัยในปีก่อนปรับลดลง รวมทั้งการปรับโครงการการประกันภัยต่อและการบริหารจัดการองค์กรให้มีต้นทุน ที่ลดลง

ทิ้งใบจองรถคันแรกพุ่ง 2 แสนคัน

ผู้ผลิตรถยนต์ เผยยอดทิ้งใบจองรถคันแรกพุ่ง 2 แสนคัน เหตุแรงซื้อหดตัว แถมค่ายรถกระหน่ำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ทำให้ราคารถถูกล งและไม่ต้องรอคิวนาน ด้านกระทรวงอุตฯ เผยรถหรูยื่นขอนำเข้าและทดสอบกับ สมอ.เพียง 15 คัน คาดสต็อกเก่าเหลือเพียบ ประกาศเร่งยื่นคำขอไม่เช่นนั้นค่าบริการจะสู่ปกติ
    นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้มีการประเมินเบื้องต้นพบมีการยกเลิกใบจองรถยนต์คันแรกประมาณ 2 แสนคัน จากยอดจองใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกจำนวน 1.25 ล้านคัน เนื่องจากแรงซื้อของคนไทยหดตัวลงอย่างมาก ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังไม่ดีนัก จากราคาภาคเกษตรที่ลดต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา กุ้ง เป็นต้น
    “ผมคิดว่าใบจองที่ค้างอยู่ที่สุดคงยกเลิกรวมๆ ก็คง 2 แสนคัน ซึ่งนอกจากมีสาเหตุจากแรงซื้อที่ลดลงแล้ว ยังเกิดจากการจัดโปรโมชั่นของค่ายรถที่โหมกระหน่ำลดแลกแจกแถม ส่งผลให้รถบางรุ่นมีราคาลดลง ไม่ต่างจากรถคันแรก และไม่ต้องรอคิว ดังนั้น เห็นว่ารัฐบาลควรกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเดินหน้าโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในปีนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพราะจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า แต่ก็ต้องบริหารจัดการเรื่องคอรัปชั่น” นายศุภรัตน์ กล่าว
    นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า หลังจากโครงการรถคันแรกสิ้นสุดและมีการส่งมอบรถยนต์เหลืออีก 2-3 เดือนข้างหน้า ทำให้ตลาดรถยนต์คืนสู่ภาวะปกติ ดังนั้นจึงต้องสร้างยอดขายเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายทั้งปี เช่น แคมเปญดอกเบี้ย 0% ส่วนลดทั้งรถยนต์และกระบะ โดยช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี เป้าหมายยอดขายแต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคัน
    รายงานข่าวจากอุตสาหกรรมยานยนต์ แจ้งว่า ยอดการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ในเดือน มิ.ย.2556 มีทั้งสิ้น 2.17 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4% แต่ลดลงจากเดือน พ.ค.2556 คิดเป็น 6.37% ส่วนรถยนต์ที่ผลิตได้ครึ่งปีแรกมีทั้งสิ้น 1.34 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 26.35%
    นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ที่นำเข้ารถยนต์อิสระ (เกรย์มาร์เก็ต) ได้ยื่นขอนำเข้า หลังวันที่ 1 ก.ค. และนำรถเข้าทดสอบมาตรฐาน กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยสถาบันยานยนต์เป็นผู้ทดสอบรถยนต์นั้น มีเพียง 9 คำขอ ครอบคลุมจำนวนรถ 15 คัน ซึ่งได้นำมาทดสอบกับสถาบันยานยนต์แล้ว 6 คัน และทำการตรวจสอบและให้ใบอนุญาตแล้ว 4 คัน คาดว่าจะมาจากสต็อกเก่าที่ยังคงค้างจำนวนมาก ซึ่งจะต้องติดตามช่วงไตรมาส 4 ว่าจะมีทิศทางอย่างไร
          “ขอย้ำว่ารถยนต์เป็นมาตรฐานบังคับหากไม่ดำเนินการทดสอบจะถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา สมอ.ได้ปรับเกณฑ์การทดสอบเพื่อเอื้อให้ผู้นำเข้ามาทดสอบโดยรถนำเข้าก่อน 1 ก.ค.56 โดยกำหนดค่าบริการทดสอบที่ลดลงมีผลถึง 15 ส.ค.56 นี้ จึงต้องการให้ผู้ที่นำเข้ารถยนต์มาเร่งยื่นคำขอ ไม่เช่นนั้นค่าบริการจะสู่ปกติคือรถยนต์เบนซิน ค่าบริการที่ลดให้เหลือ 4.5 หมื่นบาทต่อคัน จากปกติจะเป็น 9.6 หมื่นบาทต่อคัน ดีเซลเหลือ 1.9 หมื่นบาทต่อคัน จากปกติ 4.5 หมื่นบาทต่อคัน” นายวิฑูรย์กล่าว
    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่ามีผู้นำเข้ารถยนต์มายื่นคำขอแล้วจำนวน 1,183 คำขอ ครอบคลุมรถจำนวน 3,954 คัน โดยจำนวนนี้ต้องนำตัวอย่างรถไปทดสอบจำนวน 1,212 คัน ซึ่งขณะนี้ทดสอบเสร็จแล้วจำนวน 571 คัน โดยในจำนวน 571 ตัวอย่างนี้ คลอบคลุมรถเป็นจำนวน 2,198 คัน หรือคิดเป็น 55%.

10 อันดับรถคันเเรกที่มีผู้จองเยอะที่สุดในโครงการรถคันเเรก

สำหรับนโยบายรถคันแรกที่หลายคนต่างอยากที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นใหม่ หลังรัฐบาลช่วยเหลือในการให้เงินสนับสนุนคืนเงินภาษี  ได้มีรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ 10 รถยนต์ยอดนิยมที่คนจอง จากโครงการรถคันแรก มากที่สุดมาให้ได้ดูกัน

อันดับ 1 ยังคงอยู่ในใจคนไทยกับรถยนต์ Toyota Vios ที่สามารถครองยอดขายเอาไปได้ด้วย จำนวนที่สูงเกือบเป็น 2 เท่าของรถคันแรกที่เข้ามาในอันดับที่ 2 ด้วยยอดขาย 80,410 คัน ตอกย้ำความเป็นที่สุดของรถยนต์นั่งในตลาดรถยนต์ชั้นนำของในประเทศไทย

อันดับที่ 2 ยกให้ ฮอนด้า ซิตี้ Honda City คันนี้ยังดูดีและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน ด้วย ยอดขายกว่า 44,079 คัน ถือว่ามากพอสมควร สำหรับรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองได้ลงตัวทั้งสมรรถนะและการออกแบบ

อันดับที่ 3 ของรถคันแรกยอดฮิต และในอันดับนี้ รถยนต์ Nissan Almera รั้ง เข้ามาเป็นคันแรก ด้วยยอดถึง 35,279 คัน ในโครงการนี้ ถือว่ามากพอสมควร สำหรับรถยนต์ที่เปิดตัวได้เพียง 1 ปีเท่านั้น

อันดับที่ 4 ยกให้ Mazda 2 กับทรวดทรงที่โดนใจ พร้อมข้อเสนอที่โดนใจลูกค้า และออพชั่นที่คุ้มค่าเลยทำให้ Mazda 2 เข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้อย่างไม่ยาก แถมการรับประกันคืนเงินจากโครงการรถคันแรสูงสุด 1 แสนบาท ก็ทำให้ เจ้ารถคันนี้มียอดเข้ามาในโครงการถึง 28,474 คัน

อันดับที่ 5 นิสสัน มาร์ช อีโคคาร์รุ่นแรกยังขายดี ด้วยยอดขายถึง 23,218 คัน ที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ซึ่งถือว่ายังรักษาสภาพได้ดี แม้จะมาก่อนเพื่อนก็ตาม ซึ่งในอีกไม่นานนี้น่าจะมาปรับในเรื่องของออพชั่นออกมาอีกในช่วงปีหน้า ก็คงต้องจับตากันให้ดี

อันดับที่ 6 Ford Fiesta เบียดแซงคนอื่น มากับการทุ่มทุนสร้างของค่ายรถยนต์ Ford ที่มองถึงความต้องการรถยนต์จากลูกค้า จนปรับรุ่น 1.5 ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเพียงแค่นี้มันก็เข้าที่อันนดับที่ 6 กับยอดเข้าโครงการถึง 19,762 คันไปแล้ว

อันดับที่ 7 Honda Jazz รถยนต์แฮทช์แบ็ค จากฮอนด้ารุ่นที่ 2 กลับเข้ามาอีกครั้งในอันดับที่ 7 แม้จะไม่ได้รับความนิยมนักในโครงการรถคันแรก จากยอดที่เข้าร่วมเพียง 19,499 คัน แต่รถยนต์รุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมพอตัว แม้จะผ่านการเปลี่ยนโฉม และในอนาคตน่าจะมีความเคลื่อนไหว ในการเปลี่ยนรุ่นในอีกไม่ช้านี้

อันดับที่ 8 มิตซู มิราจ อาจจะเห็นกันมากบนถนน แต่ไม่น่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมในโครงการรถคันรกนัก อาจจะด้วยธรรมชาติของค่ายนี้ แต่มิราจ ก็ยังโดนใจด้วยยอดจำนวนรถ 18,698 คัน ที่เข้าตามโครงการรถคันแรก

อันดับที่ 9 โตโยต้า ยาริส อีกแฮทช์แบ็คที่เริ่มอ่อนแรงแต่ก็ยังขายได้พอควร กับรถรุ่นนี้ แม้จะไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ แต่มีกระแสว่ารถอีโค่คาร์จากค่ายโตโยต้า จะเข้ามาเสียบแทนรถรุ่นนี้ ส่วนราคา ตอนนี้มันก็เข้าโครงการรถคันแรกไปถึง 13,084 คัน

อันดับที่ 10 ฮอนด้า บริโอ้ อีโคคาร์ที่มาพร้อมเรือนร่างเล็ก ในขณะที่ตอนก่อนเปิดตัวได้รับความสนใจมาก แต่เมื่อเปิดตัวออกมา กลับไม่เป็นที่นิยมอย่างที่คิด แต่ก็มียอดขายล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม โดยมียอดรถ 11,959 คัน ในโครงการรถคันแรก

อานิสงส์รถคันแรก ดันป้ายแดงจดทะเบียนพุ่ง15%


ขนส่งทางบกเผยอานิสงส์รถคันแรกดันยอดจดทะเบียนรถป้ายแดงปีนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15%​ สูงกว่าปกติที่ขยายตัว 10%​ ต่อปี "โตโยต้า" ยังครองแชมป์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด...

นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ยอดรถยนต์ป้ายแดงที่จดทะเบียนในปี 56 คาดจะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% มากกว่าปกติที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีการขยายตัวได้ ทำให้ประชาชนยังนิยมซื้อรถยนต์ และเข้ามาจดทะเบียนกับกรมขนส่งฯ เพิ่มต่อเนื่อง แต่หากสิ้นสุดนโยบายรถคันแรก น่าจะทำให้ยอดรถป้ายแดงกลับมาเติบโตในระดับปกติ

รายงานข่าวจาก กรมการขนส่งทางบกระบุว่า สถิติยอดรถยนต์ใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศ ที่มาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.56) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,177,862 คัน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 684,924 คัน ภูมิภาค 1,492,938 คัน โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ 1.27 ล้านคัน รถยนต์ประมาณ 9 แสนคัน และคาดว่ายอดรถป้ายแดงทั้งปีจะสูงกว่าปีก่อนที่มี 3.7 ล้านคัน โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกปี 56 มีรถป้ายแดงเพิ่มเกินเดือนละ 1 แสนคัน แต่หลังจากนั้นยอดรถป้ายแดงก็ลดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละ 7-9 หมื่นคัน ทั้งนี้แยกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งทั่วประเทศ จำนวน 636,121 คัน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 318,488 คัน ภูมิภาค 317,673 คัน

สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โตโยต้า 175,570 คัน ฮอนด้า 151,051 คัน นิสสัน 64,170 คัน มิตซูบิชิ 59,306 คัน และอีซูซุ 56,354 คัน ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่งทั่วประเทศ มีจำนวน 14,811 คัน แยกเป็นในกรุงเทพฯ 10,303 คัน ภูมิภาค 4,508 คัน โดยที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ โตโยต้า 10,847 คัน ฮุนได 1,995 คัน อีซูซุ 639 คัน โฟล์คสวาเกน 435 คัน และนิสสัน 181 คัน

ส่วนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลทั่วประเทศมี 221,911 คัน แยกเป็นในกรุงเทพฯ 70,442 คัน ภูมิภาค 151,469 คัน โดยรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ โตโยต้า 84,567 คัน อีซูซุ 75,583 คัน มิตซูบิชิ 18,680 คัน เชฟโรเลต 11,947 คัน และนิสสัน 10,581 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ มี 1,270,653 คัน แยกเป็นในกรุงเทพฯ 278,329 คัน ภูมิภาค 992,263 คัน โดยรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ฮอนด้า 938,464 คัน ยามาฮ่า 245,088 คัน ซูซูกิ 33,305 คัน คาวาซากิ 28,787 คัน และริวก้า 7,657 คันส่วนรถโดยสารหรือรถบัสทั่วประเทศมี 3,418 คัน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 1,741 คัน ภูมิภาค 1,677 คัน

ขณะที่รถบรรทุกทั่วประเทศมี 30,948 คัน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 5,621 คัน ภูมิภาค 25,327 คัน และจากจำนวนรถป้ายแดงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดรถจดทะเบียนทั่วประเทศถึง 31 ก.ค.56 แล้ว 33.96 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้วที่มี 32.47 ล้านคัน โดยรถในกรุงเทพฯมี 8 ล้านคัน ภูมิภาค 25.95 ล้านคัน และมีการออกใบขับขี่ให้ทั่วประเทศ 41.39 ล้านคน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 6.3 ล้านคน และภูมิภาค 35 ล้านคน.

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กรณีโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันแรกได้ ก่อน 5 ปี

กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวง เผยหลักเกณฑ์อนุญาตให้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันแรกได้ ก่อน 5 ปี
อัพเดท เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกฎกระทรวง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม โดยรถยนต์ที่จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ ก่อนครบระยะเวลา 5 ปี จะต้องเข้าข่ายในกรณีต่อไปนี้

1. กรณีผู้ซื้อนำเงินภาษีที่ได้รับคืนไปกลับมาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมแล้วแต่กรณี
2. กรณีที่ผู้เช่าซื้อยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี และผู้ให้เช่านำรถยนต์ไปขายโดยวิธีการประมูล หรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายแล้ว หากมีเงินเหลือ ให้ผู้ให้เช่าซื้อคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
3. กรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ทำให้รถถูกยึด และนำออกขายโดยวิธีการประมูลหรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายแล้ว หากมีเงินเหลือ ให้ผู้ให้เช่าซื้อคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
4. กรณีรถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อเกิดอุบัติเหตุ หรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และผู้ซื้อ หรือผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์จะใช้รถยนต์นั้นต่อไป ให้นำเงินภาษีที่ได้รับไปแล้ว มาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
5. กรณีรถยนต์ที่ซื้อ หรือเช่าซื้อสูญหาย และบริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อไปแล้ว แต่ต่อมาผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อได้รับรถยนต์กลับคืนมา และต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบริษัทผู้รับประกันภัย กรณีนี้ ผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อต้องนำเงินภาษีที่ได้รับไปแล้ว มาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
6. กรณีผู้ซื้อ หรือผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม (ตาย)
7. กรณีผู้ให้เช่าซื้อโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อ
8. กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อซึ่งได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ได้ทำสัญญาเช่าซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าซื้อ โดยผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อ อันเนื่องมาจากการขอสินเชื่อเช่าซื้อนั้น

รู้กันเเล้วก็ฝากบอกๆต่อกันนะครับ จะได้ไม่เสียสิทธิ์รถคันเเรก
ท่านสามารถติดตามบทความต่างๆได้ที่บล็อก Firstcar Club

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับสู่ Firstcar Club

Firstcar Club เป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถคันเเรกเเละเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการดูเเลรถคันเเรก เพื่อให้รถคันเเรกอยู่กับเราไปนานๆ